สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ชี้โรคฟันผุเป็นโรคของช่องปากที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก แนะผู้ปกครองควรให้ความสำคัญ ใส่ใจและดูแลเรื่องสุขภาพฟันของลูกน้อยตั้งแต่เด็ก เพื่อสุขภาพฟันที่ดีของลูก
นายแพทย์ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคฟันผุ เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องปากรวมตัวกับเศษอาหารและน้ำลายสะสมกันเป็นคราบ ซึ่งปัญหาฟันผุในเด็ก สามารถเกิดได้ในเด็กตั้งแต่อายุไม่ถึง 1 ปี หรือเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นเป็นซี่แรก โดยหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กฟันผุ
ส่วนหนึ่งมาจากการเลี้ยงดูของครอบครัว เพราะในปัจจุบันมักปล่อยให้เด็กนอนหลับไปพร้อมกับขวดนม จึงทำให้น้ำตาลที่อยู่ในน้ำนมหรือนมผง ไปทำลายเคลือบฟันน้ำนม รวมถึงการที่ปล่อยลูกกินขนมกรุบกรอบและขนมหวาน แล้วไม่ยอมแปรงฟัน ซึ่งถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครองปล่อยให้ลูกฟันผุ เด็กจะมีอาการปวดฟันตามมาและอาจเกิดความเจ็บปวดมาก จนไม่สามารถรับประทานอาหารได้ บางคนอาจถึงขั้นขาดสารอาหาร ตลอดจนส่งผลต่อการเจริญเติบโตพัฒนาการของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า และช่องปาก ทั้งนี้ โรคฟันผุในเด็ก อาจส่งผลในด้านจิตใจและอารมณ์ หากเด็กฟันผุมาก ต้องถูกถอนฟัน ทำให้ฟันแท้ที่จะขึ้นตามมาขึ้นได้ช้ากว่าปกติและเกิดปัญหาฟันซ้อนเกและถ้าหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจลุกลามขยายใหญ่และลึกขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายอาจต้องสูญเสียฟัน และอาจมีปัญหาอื่นๆ ตามมา
ทันตแพทย์บุญชู สุรีย์พงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคฟันผุในเด็กเป็นปัญหาสุขภาพที่ผู้ปกครองต้องเอาใจใส่และดูแลอย่างใกล้ชิดควรต้องสอนและแนะนำให้ลูกไม่ละเลยการทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี โดยควรฝึกให้เด็กแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน เพื่อให้เด็กเกิดความเคยชิน เพราะการแปรงฟันมีความสำคัญมาก ส่งผลให้สุขภาพฟันและช่องปากที่ดี
ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข