ความหมายและองค์ประกอบของความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว)
ความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว : Emotional Quotient) หมายถึง ความสามารถที่จะเข้าใจ และควบคุมอารมณ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสมตามวัย สามารถปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ความฉลาดทางอารมณ์จะทำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมที่เหมาะสม
อีคิว มีองค์ประกอบ 3 ด้านคือ
ด้านดี หมายถึง ความพร้อมทางอารมณ์ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น
ด้านเก่ง หมายถึง ความพร้อมทางอารมณ์ที่จะพัฒนาตนเองไปสู่ความสำเร็จ
ด้านสุข หมายถึง ความพร้อมทางอารมณ์ที่ทำให้ตนเองมีความสุข
แต่ละด้านแบ่งเป็นคุณสมบัติย่อยๆ รวม 9 ลักษณะ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่พ่อแม่ควรปลูกฝังให้เกิดแก่ลูกในวัย 3 – 5 ปี และ 6 – 11 ปี ดังต่อไปนี้
เด็กก่อนวัยเรียน อายุ 3 – 5 ปี |
เด็กวัยเรียน อายุ 6 – 11 ปี |
||
ดี |
รู้จักอารมณ์ |
ดี |
ควบคุมอารมณ์ |
มีน้ำใจ |
ใส่ใจ และเข้าใจอารมณ์ผู้อื่น |
||
รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก |
ยอมรับผิด |
||
เก่ง |
การกระตือรือร้น/สนใจใฝ่รู้ |
เก่ง |
มุ่งมั่นพยายาม |
ปรับตัวตัวต่อการเปลี่ยนแปลง |
ปรับตัวต่อปัญหา |
||
กล้าพูดกล้าบอก |
กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม |
||
สุข |
มีความพอใจ |
สุข |
พอใจในตนเอง |
อบอุ่นใจ |
รู้จักปรับใจ |
||
สนุกสนานร่าเริง |
รื่นเริงเบิกบาน |
ซึ่งจะเห็นว่าในเด็กวัยแรกเกิด – 5 ปี องค์ประกอบของอีคิวที่สำคัญที่พ่อแม่ควรเสริมสร้างให้ลูกมีดังนี้
1. การรู้จักและควบคุมอารมณ์ การส่งเสริมให้ลูกควบคุมอารมณ์ได้ดี เริมต้นที่การฝึกให้ลูกรู้ว่าเขากำลังมีอารมณ์อย่างไร รู้จักถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาเป็นคำพูด เพื่อที่ลูกจะได้รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง เมื่อโตขึ้นจะสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดี การควบคุมตนเอง มี 2 ประการ คือการควบคุมความอยากได้ อยากเป็น ไม่ตามใจตัวเอง และการควบคุมอารมณ์ ลูกควรรู้จักอารมณ์ตนเองและสามารถทำให้อารมณ์สงบได้ โดยที่ไม่เก็บกดอารมณ์ความรู้สึกไว้
2. การเรียนรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกและการยอมรับผิด การสอนให้ลูกรู้ว่าอะไรที่ควรทำและอะไรไม่ควรทำ พ่อแม่ควรกำหนดขอบเขตว่าอะไรที่ลูกทำได้และอะไรที่ลูกทำไม่ได้ ควรสอนลูกเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมในชีวิตประจำวัน พ่อแม่ควรมีเวลาพูดคุยกับลูกบ่อยๆ โดยการตั้งคำถามที่เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น อารมณ์และความรู้สึก หรือการพูดคุย อบรมสั่งสอนโดยการสอดแทรกไปกับการเล่านิทาน การใช้สุภาษิตและคำพังเพย เป็นต้น ลูกๆจึงจะสามารถซึมซับคำสอนเหล่านั้นได้ พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกควบคุมความประพฤติตนเอง ด้วยการที่พ่อแม่เป็นคนช่วยควบคุมความประพฤติอย่างสม่ำเสมอ เมื่อลูกโตขึ้นจะเรียนรู้ที่จะควบคุมตนเองได้ในที่สุด นอกจากนี้ลูกๆควรได้รับการฝึกวินัยในเรื่องเหล่านี้ ได้แก่ วินัยในกิจวัตรประจำวัน เช่น การเก็บสิ่งของเข้าที่ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ รู้จักกาลเทศะและช่วยเหลือตนเองให้เหมาะสมกับวัย วินัยในการควบคุมตนเอง เช่น ควบคุมอารมณ์ได้ดี และอดทนต่อความลำบากได้ตามวัย
3. ความสนุกสนานร่าเริง ความสุขของลูกเป็นความสุขแบบสนุกสนานเพลิดเพลิน คือ ความสุขที่เกิดจากการเล่น ไม่ว่าเป็นการเล่นตามลำพัง หรือการเล่นกับกลุ่มเพื่อน ลูกที่มีโอกาสได้เล่นสนุกสนานจะมีจิตใจร่าเริงแจ่มใส มีพื้นฐานอารมณ์ดี
จะเห็นได้ว่า หากลูกได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและเหมาะสม เด็กจะไอคิวและอีคิวดี ดังนั้นบุคคลที่มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมให้เด็กมีไอคิวและอีคิวดีนั่น ก็คือ พ่อแม่และผู้ดูแลเด็กใกล้ชิด นั่นเอง